สรุปความบางส่วนจากการฟังบรรยายธรรม เรื่อง “ผีจ๋า ฉันลาก่อน” โดยพระครูธรรมธรไพบูลย์
ธมฺมวิปุโล
แสดงธรรมที่ชมรมพุทธดีแทค จามจุรีแสควร์ ชั้น 33
และเพิ่มเติมด้วยความรู้พิเศษจากกรณีศึกษากฏแห่งกรรม โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
“ผี” คืออดีตมนุษย์ ที่เมื่อหลังจากตายไปแล้วไปบังเกิดเป็นตามกำลังบุญ
โดยว่ากันตามความรู้จ่กผู้ปฏิบัติสมาธิ กายมนุษยจะประกอบด้วยกายหยาบ
ที่จับต้องได้และกายละเอียด หรือ กายทิพย์ หรือ อทิสมานกาย ซึ่งมีชื่อหลากหลายแตกต่างไปตามความรู้ของสำนักบฏิบัติ ซึ่งก็คือ ใจหรือส่วนหนึ่งของใจ
เมื่อกายหยาบถอดหลุดออกจากจิตแล้ว จิตหรือใจก็จะออกมาในรูปของกายละเอียด และจากนั้นเองก็ถึงเวลาที่จะต้องไปเกิดในภพภูมิต่างๆ
ตามแต่กำลังบุญจะพาไป
ผีกึ่งเทวดา
หรือที่รู้จักกันในชื่อ ผีบ้านผีเรือน หรือ ที่จริงคือ เทวดาระดับภุมมเทวาที่กำลังบุญไม่ถึงพอจะไปอยู่แบบเทวดาตั้งแต่ภุมมเทวาหัวหน้าเขตจนถึงจาตุมฯ
ปรนิมฯ จึงต้องอยู่ซ้อนภพกับโลก โดยส่วนมากคือผู้ที่ทำบุญตามประเพณี
และทำแบบไม่ตั้งใจทำสม่ำเสมอ หรือวินาทีก่อนตายเต็มไปด้วยความห่วงทรัพย์สินบ้านเรือนญาติพี่น้อง
รูปร่างจะเหมือนสมัยมีชีวิตอยู่ช่วงใกล้หมดอายุขัย
เช่นถ้าตายตอนเด็กก็เป็นผีเด็ก ตายตอนแก่ก็เป็นผีแก่ นอกจากนี้ ผีนี้จะ Aging
ด้วย
ส่วนอายุขัยก็แล้วแต่กำลังบุญ ถ้าได้รับบุญใหม่มา ร่ายกายจะกลับถอยหลังไปเรื่อยจนสุดที่ประมาณ 17-18 ปี
บ้านช่องจะอยู่เป็นมิติซ้อนภพอยู่ในบ้านทีตนอาศัย จะว่าไปคือ
ใช้ข้าวของในบ้านเหมือนเจ้าของบ้านในบภพมนุษย์ แต่จะไม่ใช้ของๆเดียวกันกับมนุษย์
ส่วนห้องนอนจะเป็นห้องมิติพิเศษยื่นต่อเติมออกมานอกตัวบ้าน (ไม่ใช่ในศาลเจ้าตี่จู่เอี๊ย
หรือศาลผีบ้านผีเรือนเหมือนในละคร)
ผีบ้านผีเรือนก็เหมือนภุมมเทวาทั่วไปคือ
มีเจ้าปกครอง ตามสายบังคับบัญชา ของชั้นจาตุมหาราชิกา
แล้วแต่ว่าจะอยู่กับกลุ่มท้าว 1 ใน 4 ท่านใด ซึ่งก็มีระบบการดูแลเกี่ยวกับการ เกิด
ตาย ย้ายที่อยู่ ซึ่งผู้ว่าการเขต(บ้างรู้จักในนาม เจ้าที่เจ้าทาง )จะจัดสรรผีบ้านผีเรือนไปตามที่ต่างๆ
แต่ทั้งนี้ก็อยู่กับบุญเจ้าตัวด้วย หากเจ้าของบ้านในเมืองมนุษย์ ย้ายบ้านออกไป
ผีบ้านผีเรือนจะย้ายไปกับมนษย์ด้วย แต่หากบ้านถูกทำลายตายยกโคตร
ก็เป็นหน้าที่หัวหน้าเขตในการอนุเคราะห์ต่อไป
อาหารการกินของผีบ้านผีเรือนจะคล้ายของมนุษย์แต่มีความละเอียดกว่า
และรสชาติต่างกันไปตามโอชารส และที่สำคัญ
พวกเขาไม่กินเครืองเซ่นเหมือนกับพวกเปรดอสุรกาย
อีกประการหนึ่งที่น่ารู้ไว้คือ บ้านต่างๆทั่วโลกล้วนมีพวกเขาอยู่อาศัย แม้แต่ในห้องแถวเล็กๆ
ในเรื่องของอิทธฤทธิ์นั้นก็จะมีบางกรณีที่พวกเขาสามารถทำได้
ขึ้นอยู่กับว่ามีกำลังบุญมากแค่ไหนและเป็นฝ่ายใด
ผีบ้านผีเรือนบางจำพวกจะเป็นกลุ่มพิเศษที่รู้จักวิชาอาคม เรียกว่า วิทยาธร
ซึ่งในอดีตเคยเป็น พ่อมดแม่มด เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์
และยังคงมีวิชาเวทมนต์คาถาติดตัวมาก็สามารถใช้ฤทธิ์ได้
และเวทมนต์ของเขาเหล่านั้นก็ยังคงสาย ขาว-ดำ ตามที่เคยฝึกมาในภพชาติก่อน
แต่พลังของพวกเขาจะไม่ได้มีอานุภาพมากนัก
เนื่องจากกำลังบุญที่จำกัดของผีบ้านผีเรือน โดยมากที่ทำได้มากที่สุดคือ
เคลือนย้ายข้าวของ ปิดสวิตซ์ไฟ ขับไล่สัมภเวสี หรือการทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าประมาณ
7 วัน ตามกำลังสมาธิจะพาไปได้
แต่การที่พวกเขาจะแสดงเรื่องพวกนี้ให้เห็นนั้นไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา
ต้องมีสาเหตุบางอย่าง เช่น หัวหน้าเขตสั่งการมา
หรือ เคยเป็นญาติที่รักกันมาก่อน หรือ จำเป็นต้องปกป้องเจ้าของบ้านให้พ้นอันตราย
ข้อจำกัดอีกประการคือ พวกเขาได้แต่เป็น “พรายกระซิบ” เท่านั้น
อีกประการหนึ่งที่น่ารู้ไว้คือ บ้านต่างๆทั่วโลกล้วนมีพวกเขาอยู่อาศัย แม้แต่ในห้องแถวเล็กๆ
ดังนั้นอย่าได้แปลกใจว่าเมื่ออยู่บ้านคน เดียว รู้สึกว่ามีอีกคนอยู่กับเราด้วย!